Publication Date : September 4, 2025
ในห้องอันเงียบสงบ ปากกาถูกจับแน่นในมือ สุภาพ จันแปงเงิน นั่งเขียนจดหมายบอกลาครั้งสุดท้ายถึงคนที่เธอรักที่สุด – “ลูก” ความรู้สึกสิ้นหวังและความล้มเหลวถาโถม จนเธอเชื่อว่าตัวเองไม่ดีพอ ขณะที่ถ้อยคำลาสุดท้ายไหลลงบนกระดาษ ภาพวัยเด็กผุดขึ้นมาในความคิด เธอเติบโตจากครอบครัวยากจนในเชียงราย เป็นลูกคนโตที่ต้องช่วยพ่อแม่ทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ออกไปหาอาหารในป่า ดูแลน้อง ๆ และไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือเหมือนคนอื่น เมื่อแต่งงานกับสามีที่มีบทบาทเป็นผู้นำชุมชน เธอยิ่งรู้สึกกดดันจากสายตาและความคาดหวังของคนรอบข้าง แม้ทุ่มเทหัวใจทั้งหมดให้ลูก ๆ หวังให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่า แต่ความผิดหวังก็ทำให้สุภาพโทษตัวเอง จมดิ่งลงสู่ห้วงมืด และคิดว่า “การจากไป” คือคำตอบสุดท้าย
ในวินาทีที่เธอเกือบปิดประตูชีวิต เสียงจากภายนอกดังขึ้นว่า “เอ็งยังมีแม่นะ” ประโยคสั้น ๆ แต่เหมือนจุดประกายไฟกลางความมืด สุภาพเปิดประตู ทิ้งจดหมาย และโผเข้าสู่อ้อมกอดของแม่ และเมื่อได้กอดลูกอีกครั้ง เธอตระหนักว่า เธอไม่มีสิทธิ์ยอมแพ้ ยังมีอีกมากที่ต้องทำ — เพื่อลูก เพื่อครอบครัว และเพื่อคนอื่นที่กำลังสิ้นหวัง
ด้วยกำลังใจจากครอบครัว สุภาพเริ่มต้นใหม่ในพื้นที่นา 3 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา ที่แม่ยกให้ เธอปรับพื้นที่เป็นแปลงเรียนรู้สำหรับเกษตรกรและผู้หญิงที่ต้องการโอกาสใหม่ ใช้ทุกเมล็ดพันธุ์เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนความหวัง เธอสังเกตว่าหลายคนในชุมชนมีปัญหาจิตเวชหรือเกี่ยวข้องกับความรุนแรง จึงอาสาทำงานช่วยเหลือผู้ที่ถูกกระทำหรือกระทำโดยไม่รู้ตัว จนค่อย ๆ เกิดเป็นกลุ่มคนที่ลุกขึ้นมาช่วยกัน และได้รับการยอมรับจากชุมชน ปี 2557 สุภาพเดินไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน เพื่อขออาสาทำงานพัฒนาชุมชน เธอตั้งใจเรียนรู้กฎหมายและวิธีคุ้มครองผู้หญิง พร้อมเป็นแกนนำในโครงการต่าง ๆ ร่วมกับภาครัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน ทำให้เธอมีความรู้และทักษะช่วยเหลือคนที่เผชิญชะตาเดียวกัน
ปัจจุบัน สุภาพทำงานร่วมกับอาสาสมัครในพื้นที่ ดูแลผู้ป่วยจิตเวช และช่วยเหลือกรณีความรุนแรงในระดับหมู่บ้าน–อำเภอ แปลงผักของเธอกลายเป็นศูนย์กลางให้ชาวบ้านและนักเรียนมาร่วมกิจกรรมสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง ความภาคภูมิใจของเธอ คือการได้เห็นลูก ๆ มีส่วนร่วม และครอบครัวมีความสุข อาหารเพียงพอ รายได้มั่นคง และชุมชนช่วยเหลือกัน
“ชีวิตและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับฉัน มาจากความรัก ความเข้าใจ และการยอมรับในสิ่งที่ลูก ๆ เลือก พร้อมการให้กำลังใจกันและกัน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันก้าวข้ามวันที่มืดมนที่สุดของชีวิตมาได้”
Baan Khor Khuang Nok has always been known as the village with decent soil and clean air. However, the area has its cultivation restrictions and is meant to be a preservation area since it is located next to Doi Pu Ka’s natural park.
© Copyright 2020 by Raks Thai Foundation.