ส่งเสริมความรู้อนามัยเจริญพันธุ์ในนักศึกษา กศน.

     มูลนิธิรักษ์ไทย จังหวัดอุดรธานี เห็นความสำคัญว่ากลุ่มนักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เป็นกลุ่มที่มีอัตราเสี่ยงสูงในการท้องไม่พร้อม เนื่องจากเป็นเด็กที่ไม่ได้อยู่ในการศึกษาในระบบโรงเรียน และเข้าไม่ถึงบริการ ความรู้ด้านอนามัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 12-19 ปี ที่จากการสำรวจพบว่ามักจะขาดความรู้ด้านอนามัยเจริญพันธุ์ นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มเด็กเหล่านี้มาจากครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้าง

      ธนพงษ์ สุระคาย ผู้ประสานงานภาคสนาม มูลนิธิรักษ์ไทย จ.อุดรธานี โครงการส่งเสริมความรู้อนามัยเจริญพันธ์และป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของนักศึกษากศน. บอกว่าโครงการดำเนินงานกับกลุ่มนักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) อายุ 12-24 ปี ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดอุดรธานี ในปี 2563 ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 

   การจัดกิจกรรมของโครงการส่งเสริมความรู้อนามัยเจริญพันธ์และตั้งกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในนักเรียน กศน. เป็นการทำกิจกรรมกลุ่มย่อยผ่านเครือข่ายแกนนำ โดยได้รับความร่วมมือจากครูกศน.และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 

     กิจกรรมที่ทำเน้นการมีส่วนร่วมของเด็ก เน้นการพูดคุยซักถามแบบโฟกัสกรุ๊ป เป็นกลุ่มสนทนาเล็ก ๆ มากกว่าที่จะเน้นการบรรยาย หลังจากพูดคุยสนทนาแล้วจะมีการประเมินความรู้ความเข้าใจของเด็ก

     นอกจากนี้ยังมีการตั้งกลุ่มสื่อสารทางแอพพลิเคชั่นไลน์ แยกเป็นพื้นที่ตามตำบล ในการให้ความรู้และคำแนะนำเพื่อให้เด็กเข้าถึงบริการ กลุ่มไลน์นี้ยังเป็นการให้คำปรึกษาส่วนตัวได้ด้วย โดยเฉพาะเด็กบางคนตั้งครรภ์ แต่ไม่รู้จะดูแลตัวเองอย่างไร ประสบความยากลำบากในการดำเนินชีวิต  หากญาติหรือครอบครัวเข้าใจก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่เข้าใจ คุณแม่วัยรุ่นเหล่านี้จะโดดเดี่ยวและไร้ที่พึ่งอย่างยิ่ง

     ครู กศน.ที่อยู่ในชุมชน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กเป็นตัวเชื่อมที่สำคัญในการทำงานที่ช่วยให้ทางโครงการฯ เข้าหาเด็กได้สะดวกขึ้น สิ่งสำคัญในการทำงานคือช่องทางการสื่อสาร ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าหน้าที่รักษ์ไทยต้องปรับตัวปรับเวลาโดยเอาเวลาของเด็กเป็นที่ตั้ง  บ่อยครั้งที่เด็ก ๆ สะดวกที่จะคุยปรึกษาตอนเย็นตอนค่ำหลังเลิกงาน คนทำงานก็ต้องพร้อม

   โครงการส่งเสริมความรู้อนามัยเจริญพันธ์และการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของนักศึกษา กศน. ทำหน้าที่ในการให้ข้อมูลและเชื่อมต่อการบริการด้านอนามัยเจริญพันธุ์  เข้าไปเชื่อมโยงให้นักศึกษา กศน.ได้รับรู้แหล่งบริการทางด้านสาธารณสุข และให้เข้าไปใช้สิทธิในคลินิกวัยรุ่น/คลินิกตั้งครรภ์ไม่พร้อมในโรงพยาบาลของรัฐ ตลอดจนการเข้าถึงชุดตรวจการตั้งครรภ์และอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ 

        หลังจากจบโครงการแล้ว จากการประเมินโครงการพบว่ากลุ่มเด็กนักเรียนกศน.มีความเปลี่ยนแปลงในทัศนคติและพฤติกรรม โดยพบว่าร้อยละ 70 มีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อการตั้งครรภ์ไม่พร้อม 

     ธนะพงษ์ กล่าวถึงทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงของเด็กว่า พวกเขาพร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อนหากเพื่อนตั้งครรภ์ไม่พร้อม และเข้าใจว่าแต่ละคนมีเหตุผล มีปัญหาของตนเอง ไม่ใช่ว่าคนที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมจะเป็นคนไม่ดี  ส่วนพฤติกรรมของนักเรียนชายและหญิงก็เปลี่ยนไป คือรู้ว่าต้องมีอุปกรณ์ป้องกันในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ในกรณีของฝ่ายชาย เมื่อเขารับทราบถึงเรื่องสุขภาวะทางเพศที่ปลอดภัยแล้ว เขาก็จะช่วยประคับประคองรับผิดชอบในความสัมพันธ์กับฝ่ายหญิงด้วย

     สังคมทั่วไปมักจะมองว่า เด็กกศน.โดยเฉพาะเด็กชายบางกลุ่มเป็นพวก “ขาโจ๋” “เด็กแว้น” รู้สึกไม่เป็นมิตร แต่เมื่อได้ลงไปทำงานโครงการนี้ ธนะพงษ์ กลับเห็นว่าความจริงแล้วพวกเขายังมีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับเด็กทั่วไป และยังพบว่าเป็นกลุ่มเด็กที่แบกรับปัญหาของครอบครัวและต้องพึ่งตนเองอย่างมาก  ขัดแย้งกับภาพที่คนอื่นมักจะมองว่าสร้างปัญหา  

      แม้โครงการนี้จะหมดระยะเวลาการดำเนินงานไปแล้ว แต่ถ้าหากเป็นไปได้และมีแหล่งทุนสนับสนุน แน่นอนว่าโครงการที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มเด็กกศน.เหล่านี้จะต้องกลับมาอีกแน่นอน

โครงการอื่นๆ

การแก้ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเชียงใหม่

การแก้ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเชียงใหม่

สถานการณ์การคลอดบุตรในกลุ่มวัยรุ่นไทย นับว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง คือ 44.8 คนต่อวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี 1,000 คน ขณะที่สถิติในแถบทวีปเอเชียแปซิฟิคอยู่ที่ 35 ต่อ 1,000 คน (ข้อมูลสถานการณ์อนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชน ปี 2558 โดยสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข)

ปัญหาการท้องในสถานประกอบการ

ปัญหาการท้องในสถานประกอบการ

“ลำพูน” เป็นจังหวัดเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมลำพูนตั้งอยู่ ส่งผลให้มีประชากรวัยแรงงานชายหญิงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงอายุ 15-20 ปี ที่ส่วนใหญ่ย้ายมาจากอำเภอรอบนอกหรือจังหวัดใกล้เคียง ประมาณ 80,000 คน ใน 65 สถานประกอบการ

ป้องกันโควิด19 ในชุมชนประมง

ป้องกันโควิด19 ในชุมชนประมง

ช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่เกิดการระบาดของโควิด 19 ระลอกสองที่มหาชัย จนเป็นข่าวครึกโครมและส่งผลกระทบต่อชีวิตและเศรษฐกิจของชาวไทยและแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดสมุทรสาครนั้น มูลนิธิรักษ์ไทยมีส่วนสำคัญในการทำงานช่วยเหลือเบื้องหลังอย่างทันท่วงที