หัวใจแม่…ไม่มีวันยอมแพ้

โพสเมื่อ : 4 กันยายน 2568

นางหน่อโชเอ หญิงชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า ปัจจุบันอายุ 44 ปี เป็นมารดาของบุตรสาวสองคนที่เธอรักยิ่ง เธอแต่งงานเมื่ออายุ 22 ปี ก่อนต้องอพยพจากบ้านเกิด เพื่อหลบหนีภัยสงครามในประเทศพม่าเข้าสู่ประเทศไทย โดยเริ่มต้นชีวิตใหม่ในศูนย์อพยพแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชีวิตในค่ายอพยพไม่ง่ายนัก ความเป็นอยู่ที่ยากลำบากบีบบังคับให้สามีต้องออกไปรับจ้างนอกค่าย และไม่นานเธอก็ตัดสินใจติดตามออกมาทั้งคู่ทำงานรับจ้างด้านเกษตรกรรมทุกประเภท ได้ค่าจ้างเพียงวันละ 100 บาท แม้จะเหน็ดเหนื่อยและรายได้น้อย แต่เธอยังมีความหวังว่าชีวิตจะดีขึ้นในอนาคต ทว่า ความหวังนั้นกลับพังทลาย เมื่อถูกนายจ้างโกงค่าจ้างที่ตกลงเดือนละ 3,000 บาท และบังคับให้ทำงานต่อ แม้ในช่วงตั้งครรภ์ เธอก็ต้องฝืนทำงานใกล้คลอด ด้วยความกังวลต่อลูกที่จะเกิดมาท่ามกลางความไม่ปลอดภัย สุดท้ายเธอและสามีตัดสินใจหลบหนี และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่พูดภาษาเดียวกัน

ลูกทั้งสองคือสิ่งที่ทำให้เธอลุกขึ้นสู้ต่อเสมอ

ลูกทั้งสองคือสิ่งที่ทำให้เธอลุกขึ้นสู้ต่อเสมอ

บ้านใหม่ของเธอเป็นเพียงกระท่อมหลังเล็ก มุงหลังคาด้วยใบไม้เก่า ไม่สามารถป้องกันแดด ฝน หรือความหนาวเย็นได้ ยามฝนตกต้องนอนตัวสั่นเพราะหลังคารั่ว อีกทั้งสามีเริ่มป่วยจนทำงานไม่ไหว เมื่อคลอดบุตร สิ่งที่ควรเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขกลับกลายเป็นความทุกข์ เพราะสุขภาพอ่อนแอจนไม่มีน้ำนมให้ลูกกิน สามีที่ป่วยต้องฝืนออกหางาน เพื่อซื้อนมข้นหวานมาต้มผสมน้ำให้ลูกประทังชีวิต เด็กน้อยร้องไห้เพราะความหิวอยู่บ่อยครั้ง หลังคลอดเพียงสามสัปดาห์ เธอต้องอุ้มลูกออกไปรับจ้างตากแดดตากฝนเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว จนกระทั่งปี 2566 เธอสูญเสียสามีจากโรคมะเร็ง กลายเป็นทั้งพ่อและแม่ เลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง รายได้เพียงเล็กน้อยทำให้หลายครั้งเธอรู้สึกสิ้นหวัง แต่ภาพหน้าลูกทั้งสองคือสิ่งที่ทำให้เธอลุกขึ้นสู้ต่อเสมอ

ปัจจุบัน ลูกสาวอายุ 14 และ 12 ปี ได้เข้าเรียนระดับมัธยมต้นที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม ด้วยความช่วยเหลือจากคนในชุมชน สิ่งนี้ทำให้หน่อโชเอมีความสุขและภูมิใจที่สุด ความหวังสูงสุดของเธอ คือให้ลูกเรียนจบ มีงานทำ และมีชีวิตที่มั่นคง ปลอดภัย ไม่ต้องเผชิญความอดอยากเช่นเดียวกับแม่

หน่อโชเอมักสอนลูกว่า “อย่าเอาเปรียบใคร และหากวันหนึ่งรู้สึกท้อ ให้หันกลับมามองหน้าแม่ แม่จะเป็นเหตุผลให้ลูกลุกขึ้นอีกครั้ง” ปัจจุบัน เธอยังทำงานรับจ้างทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นปลูกข้าวโพด พ่นยา ถอนหญ้า หรืออะไรก็ตามที่พอจะมีรายได้ ได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท แบ่งเป็น 100 บาทสำหรับค่าอาหารและของใช้ 100 บาทเก็บไว้ส่งเสียลูกเรียน และอีก 100 บาทเก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน

ความฝันของหน่อโชเอไม่ใช่ความร่ำรวย แต่คือการมีบ้านที่แข็งแรง ปลอดภัย ให้ลูกอยู่อย่างไม่ต้องอายใคร และสามารถต้อนรับเพื่อนได้อย่างภาคภูมิใจ แม้ชีวิตจะธรรมดาในสายตาผู้อื่น แต่หัวใจของเธอยิ่งใหญ่ เพราะยอมอด ทนเจ็บ และเหนื่อยเพื่อแลกกับอนาคตที่ดีกว่าของลูก

เรื่องราวอื่นๆ

ผู้หญิงมีหน้าที่แค่เลี้ยงลูก ?

ผู้หญิงมีหน้าที่แค่เลี้ยงลูก ?

แต่เดิมวัฒนธรรมของชาติพันธุ์มะลิ ผู้หญิงเวลาแต่งงาน ฝ่ายชายจะมีสิทธิ์เลือกคู่ครอง โดยที่ฝ่ายหญิงจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม...

การเปลี่ยนแปลงความคิดที่ก้าวสู่การเป็นผู้นำ

การเปลี่ยนแปลงความคิดที่ก้าวสู่การเป็นผู้นำ

จากความพยายามตั้งแต่เริ่มต้น ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก็สามารถเป็นผู้นำได้หมด ขึ้นอยู่กับจิตใจของเราว่าเราจะตั้งใจทำขนาดไหน

ขยะทะเลปัญหาสำคัญของคนเกาะเต่า

ขยะทะเลปัญหาสำคัญของคนเกาะเต่า

คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเกาะเต่า ในฐานะจุดดำน้ำระดับโลก หาดตามเว้าอ่าวที่มีอยู่รอบเกาะเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบดำน้ำ อ่าวลึกเป็นอ่าวที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเต่า เป็นจุดดำน้ำปะการังน้ำตื้น ที่มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักกันดี

กลุ่มวิสาหกิจ หมู่บ้านก่อก๋วง ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

กลุ่มวิสาหกิจ หมู่บ้านก่อก๋วง ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

ชุมชนชาวลัวะ บนสันเขา บ้านก่อก๋วง ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน มีการตั้งถิ่นฐานในบริเวณที่ราบและพื้นที่ภูเขา หรือเชิงเขาที่ระดับความสูง 600-1,200 เมตรจากระดับน้ำ ได้อาศัยผืนป่าและตั้งรกรากในพื้นที่แห่งนี้มานาน จนถึงปัจจุบันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ติดเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา