โพสเมื่อ : 4 กันยายน 2568
สุพัตรา จือปา หญิงสาวชาวอาข่า อาศัยอยู่กับแม่ น้องชาย และลูกชายวัย 7 ขวบ ในหมู่บ้านแม่จันใต้ ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงรายหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียง 40 ครัวเรือน ตั้งอยู่บนทิวเขาซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ วิถีชีวิตในชุมชนยังคงความเรียบง่ายแบบดั้งเดิม
ยามเช้า เสียงไก่ขันต่อเนื่องไปทั่วหมู่บ้าน เปรียบเสมือนสัญญาณเริ่มต้นวันใหม่ แสงไฟจากตะเกียงและเตาไฟค่อย ๆ ส่องสว่าง บางบ้านมีไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ เนื่องจากหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ถนนเข้าสู่หมู่บ้านเป็นทางลูกรังยาวกว่า 3 กิโลเมตร
สุพัตรามักตื่นก่อนทุกคน เพื่อทำอาหาร ซักผ้า และทำความสะอาดบ้านให้เสร็จก่อน 07.00 น. จากนั้นจึงปลุกลูกชายให้ตื่นมารับประทานอาหาร ขณะเดียวกันแม่ของเธอก็ตื่นขึ้นมาช่วยแบ่งเบาภาระ หน้าที่สำคัญอีกอย่างคือการพาลูกไปโรงเรียนที่อยู่อีกหมู่บ้าน ห่างออกไปกว่า 3 กิโลเมตร เนื่องจากในหมู่บ้านไม่มีโรงเรียน
หลังส่งลูก เธอกลับมาดูแลงานบ้านที่เหลือให้เรียบร้อย ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานในสวน ซึ่งต้องลัดเลาะเส้นทางลูกรังตามไหล่เขาภายในสวนมีการปลูกกาแฟและชาอัสสัมเป็นรายได้หลัก สลับกับไม้ผลยืนต้น เช่น อโวคาโด พลับ เชอร์รี บ๊วย และไม้ป่าอื่น ๆ ทำให้เกิดระบบวนเกษตรที่ร่มรื่นและสร้างรายได้เสริม นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงผึ้งในโพรงไม้เพื่อเก็บน้ำผึ้งขาย งานในสวนต้องใช้แรงมากและไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ทั้งการถางหญ้า พรวนดิน ขนและใส่ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่ง เก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งบางครั้งต้องปีนเขาหรือปีนต้นไม้ในพื้นที่ลาดชัน ทำงานกลางแดดจัดในฤดูร้อน ท่ามกลางฝนและโคลนในฤดูฝน หรือทนหนาวและหมอกหนาในฤดูหนาว รวมถึงต้องเผชิญแมลงและสัตว์กัดต่อยต่าง ๆ
เมื่อเสร็จงานในสวนราว 16.00–17.00 น. สุพัตราจะกลับบ้านเพื่อทำอาหารและจัดการงานบ้านให้เสร็จภายในเวลา 19.30 น. ก่อนออกไปรับลูกจากโรงเรียนภาษาจีนที่เปิดสอนตั้งแต่ 17.00–20.00 น. เธอให้เหตุผลว่าอยากให้ลูกพูดและเขียนภาษาจีนได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในอนาคต เพราะชุมชนมีเครือข่ายญาติพี่น้องในประเทศจีน และหลายคนสามารถไปเรียนต่อหรือทำงานที่นั่นได้
การเดินทางไปส่งและรับลูกในช่วงฝนตกหรือหน้าหนาวเป็นเรื่องลำบาก ถนนลื่น มืด และหนาวจัด บางครั้งล้มจนเสื้อผ้าและหนังสือเปื้อนโคลน สุพัตรายอมเหนื่อยเพราะไม่อยากให้ลูกต้องลำบากเหมือนตน เธออยากให้ลูกได้รับการศึกษาและประสบการณ์นอกชุมชน เช่น การไปเมือง ทะเล ดูหนัง หรือเที่ยวสวนสนุก พร้อมสอนให้เขาเป็นคนดี ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ และมีความรับผิดชอบ ทุกครั้งที่คิดถึงลูก สุพัตราก็จะนึกถึงแม่ของตน เธอเชื่อว่าแม่ก็คงหวังให้ตนเป็นคนดีเช่นเดียวกับที่เธอหวังต่อลูก สุพัตรายืนยันว่า แม้จะไม่ได้หาเงินมากมาย แต่จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ครอบครัวลำบากในอนาคต และรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำเพื่อแม่และลูก
นอกจากงานบ้านและงานสวน สุพัตรายังสละเวลาช่วยงานสังคมในชุมชน เช่น งานกลุ่มสตรี งานโฮมสเตย์ และงานพัฒนาหมู่บ้าน โดยเลือกทำเท่าที่ไม่กระทบต่อการดูแลแม่และลูก เธอปฏิเสธการไปประชุมหรืออบรมที่ต้องค้างคืนหรือกลับไม่ทันรับลูก เพราะครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุด “การไปอบรมหรือประชุมทำให้เราได้พบปะผู้คน ได้ความรู้ใหม่ ๆ แต่สำหรับหนู แม่และลูกสำคัญกว่าเสมอ” สุพัตรากล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม
ชุมชนชาวลัวะ บนสันเขา บ้านก่อก๋วง ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน มีการตั้งถิ่นฐานในบริเวณที่ราบและพื้นที่ภูเขา หรือเชิงเขาที่ระดับความสูง 600-1,200 เมตรจากระดับน้ำ ได้อาศัยผืนป่าและตั้งรกรากในพื้นที่แห่งนี้มานาน จนถึงปัจจุบันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ติดเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา